เฟซบุ๊กเอาจริง ! ไล่ลบไลค์ปลอมออกจากแฟนเพจแล้ว |
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม เมื่อพูดถึงการกดไลค์ (Like) หรือถูกใจ คนที่เคยเล่นเฟซบุ๊ก (Facebook) ทุกคนคงรู้จักสิ่งนี้กันเป็นอย่างดี นั่นก็คือการกดไลค์ให้สิ่งต่าง ๆ บนเฟซบุ๊ก ไม่ว่าจะเป็นข้อความ, รูปภาพ, วิดีโอ หรือเพจที่เราชอบและมีความสนใจ โดยจำนวนการกดไลค์ของเพจต่าง ๆ จะทำให้เพจนั้นโด่งดังและมีคนเข้ามาดูมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงเป็นสาเหตุให้เกิดอาชีพการรับจ้างกดไลค์ หรือไลค์ปลอมขึ้นมา ซึ่งจุดประสงค์ของคนที่สร้างไลค์ปลอมนี้ ก็เพื่อให้เพจธุรกิจการค้าของตนนั้นดูน่าเชื่อถือและมีผู้คนให้ความสนใจมากขึ้นนั่นเอง แต่หลังจากนี้เหมือนว่าทางเฟซบุ๊กจะไม่ยอมปล่อยให้ทำแบบนั้นได้อีกง่าย ๆ อีกต่อไปแล้ว... ล่าสุด เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทางทีมงานด้านความปลอดภัยของเฟซบุ๊กได้ทำการอัพเดทระบบใหม่ ซึ่งเป็นการเพิ่มระบบตรวจจับการกดไลค์ที่ผิดเงื่อนไขการให้บริการของเฟซบุ๊ก อย่างเช่นการสร้างแอ็คเคาท์ปลอมเพื่อกดไลค์, การกดไลค์ด้วยมัลแวร์, การแฮ็คหรือหลอกลวงผู้อื่นให้กดไลค์ หรือการรับจ้างกดไลค์ โดยเมื่อระบบตรวจเจอไลค์เหล่านี้ก็จะทำการลบไลค์เหล่านั้นออกจากระบบทันที สำหรับจุดประสงค์ในการกำจัดไลค์ปลอมของเฟซบุ๊กนี้ เป็นเพราะว่าทางเฟซบุ๊กต้องการให้การกดไลค์นั้นมาจากกลุ่มคนที่มีความชอบและสนใจในเพจนั้น ๆ อย่างแท้จริง และคาดว่าการกำจัดไลค์ปลอมนี้จะส่งผลให้มีจำนวนไลค์ที่ถูกลบออกในแต่ละเพจเพียงแค่ไม่ถึง 1% เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ได้มีข่าวจากบางแหล่งรายงานว่าจำนวนเพจที่มีไลค์เกิน 2 ล้านเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีทั้งหมด 2 เพจ แต่ตอนนี้เหลือเพียงแค่ 1 เพจแล้ว ส่วนเพจที่มีไลค์เกิน 1 ล้าน ก่อนหน้านี้มี 20 เพจ แต่ตอนนี้เหลือเพียง 9 เพจเท่านั้น สำหรับใครที่เคยเพิ่มไลค์ให้เพจตัวเองด้วยวิธีการที่ผิดเหล่านี้ แนะนำให้เลิกทำดีกว่า เพราะท่านอาจเสียเวลาไปเปล่า ๆ เลยก็ได้นะ |
Overview Social Network, Download All Application, Facebook, line, Whatsapp, Viber, Skype, Msn, Google, Instagram, Application for Iphone, Andriod, BB, Windows Phone, PC and Mac...นานาสาระ เกี่ยวกับ Social Network Application ยอดฮิต
Thursday, October 4, 2012
เฟซบุ๊กเอาจริง ! ไล่ลบไลค์ปลอมออกจากแฟนเพจแล้ว
เผย 10 เคล็ดลับ เกราะป้องกัน "อีเมล"
| |||
| |||
|
เผยภาพหลุด iPad mini ล่าสุด
| |||
| |||
| |||
| |||
| |||
|
กสทช อนุมัติให้นำเข้า iPhone 5 สิ้นตุลาฯ 55 นี้
| |||
|
Wednesday, October 3, 2012
วิธีเพิ่มรายชื่อ (Contact) และนำรายชื่อจากซิมการ์ดลงใน iPhone
รายชื่อเบอร์โทรที่จัดเก็บอยู่ในซิมการ์ดหรือภายในเครื่องโทรศัพท์นั้น เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือทุกคน สำหรับผู้ใช้งาน iPhone มือใหม่ ที่ยังไม่ทราบวิธีการเพิ่มรายชื่อใหม่และนำรายชื่อที่จัดเก็บอยู่ในซิมการ์ดมาใส่ไว้บน iPhone ลองมาดูวิธีการเพิ่มรายชื่อและนำรายชื่อจากซิมการ์ดมาใส่ใน iPhone กัน
วิธีการเพิ่มรายชื่อใหม่ (Contact)
1. เปิดโปรแกรมโทรศัพท์ (Phone)
2. เมื่อเปิดโปรแกรมแล้วให้เลือกแท็บรายชื่อ (Contacts) จากนั้นแตะที่เครื่องหมาย + เพื่อเพิ่มรายชื่อใหม่
3. เพิ่มรายชื่อใหม่ (New Contact) โดยใส่ข้อมูลชื่อ, เบอร์โทร, อีเมล, ที่อยู่, ตั้งค่าเสียงเรียกเข้าสำหรับรายชื่อ, เพิ่มรูปภาพสายโทรเข้าของรายชื่อ และเมื่อใส่ข้อมูลครบแล้ว ให้แตะที่ปุ่ม เสร็จ (Done) รายชื่อก็จะถูกบันทึกลงบน iPhone
วิธีการนำรายชื่อจากซิมการ์ดลงใน iPhone
1. เปิดโปรแกรมตั้งค่า (Settings)
1. เปิดโปรแกรมตั้งค่า (Settings)
2. เลือกเมนู เมล, รายชื่อ, ปฏิทิน (Mail, Contacts, Calendars)
3. เลื่อนลงมาในส่วนของรายชื่อ (Contacts) จากนั้นเลือกที่เมนู นำเข้ารายชื่อซิม (Import SIM Contacts) รายชื่อในซิมการ์ดก็จะถูกคัดลอกลงบน iPhone
5. หากต้องการแก้ไขรายชื่อ ก็ให้แตะรายชื่อที่ต้องการ จากนั้นแตะที่ปุ่มแก้ไข (Edit) เพื่อแก้ไขข้อมูลรายชื่อ และเมื่อแก้ไขเสร็จเรียบร้อยให้แตะที่ปุ่ม เสร็จ (Done) เพื่อบันทึกการแก้ไข
วิธีสมัคร Apple ID แบบไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
สำหรับผู้ใช้ iPhone มือใหม่ ที่ต้องการดาวน์โหลดแอพฯ มาติดตั้งและใช้งานบน iPhone แต่ติดปัญหาตรงที่ไม่มี Apple ID (บัญชีที่เอาไว้โหลดแอพฯ จาก App Store) ทำให้ไม่สามารถดาวน์โหลดแอพฯ ได้ และติดปัญหาตรงที่ไม่มีบัตรเครดิต ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ การสมัคร Apple ID นั้นมีเทคนิคการสมัครแบบไม่ต้องใช้บัตรเครดิตก็ได้ โดยมีเงื่อนไขคือสามารถดาวน์โหลดได้เฉพาะแอพฯ ที่แจกฟรีเท่านั้น หากต้องการซื้อแอพฯ แบบเสียเงิน สามารถเพิ่มข้อมูลบัตรเดรดิตได้ในภายหลัง ถ้าพร้อมแล้วมาดูวิธีการสมัคร Apple ID แบบไม่ต้องใช้บัตรเครดิต ทุกขั้นตอนสามารถทำได้จาก iPhone ส่วนขั้นตอนจะมีอะไรบ้างนั้น มาติดตามกันเลย
วิธีสมัคร Apple ID แบบไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
1. เปิด App Store จากบน iPhone
2. เลือกแท็บ Top 25 หรือ Top Charts เสร็จแล้วกดเลือกแท็บ Top Free เพื่อเลือกแอพฯ แบบฟรี จากนั้นให้เราเลือกแอพฯ ใดแอพฯ หนึ่งที่มีคำว่า FREE เพื่อใช้สมัคร Apple ID
3. เมื่อเลือกแอพฯ ฟรีที่ต้องการได้ ให้กดเข้าไปที่แอพฯ เสร็จแล้วให้กดตรงปุ่ม Free และ Install App
4. หน้าจอจะแสดงข้อความเตือนดังรูป ให้เลือก Create New Apple ID เพื่อสร้าง Apple ID
5. เลือก Store ของประเทศที่ต้องการใช้งาน ขั้นตอนนี้ให้เลือกเป็น Store Thailand จากนั้นกดปุ่ม Next
6. ข้อมูลเงื่อนไขและข้อตกลงการใช้งาน iTunes Store ให้กดปุ่ม Agree เพื่อยอมรับเงื่อนไขและข้อตกลง
7. กรอกข้อมูลอีเมล (ควรใช้อีเมลที่ใช้งานอยู่จริง) กำหนดรหัสผ่าน 8 ตัวขึ้นไป และต้องประกอบไปด้วยตัวอักษรตัวพิมพ์ใหญ่, ตัวพิมพ์เล็ก และตัวเลขเท่านั้น เช่น AbCd123456 เป็นต้น
8. จากนั้นเลื่อนลงมาด้านล่างเพื่อกรอกข้อมูลคำถามป้องกันการลืม ให้ตั้งคำถามพร้อมระบุคำตอบที่ต้องการ เช่น What’s your name ? เป็นต้น การตั้งคำถามจะใช้ในกรณีที่ลืมรหัสผ่านนั่นเอง เสร็จให้กรอกวัน เดือน ปีเกิด และหากต้องการรับข่าวสารจากแอปเปิลทางอีเมลให้กดเลือก Subscribe จากนั้นกด Next เพื่อไปขั้นตอนต่อไป
9. กรอกข้อมูลบัตรเครดิต (ขั้นตอนนี้สำคัญ) ในกรณีนี้เราไม่มีบัตรเครดิตให้เลือกที่ None (หากต้องการโหลดแอพฯ สามารถระบุข้อมูลบัตรเครดิตได้ในภายหลัง) จากนั้นเลื่อนลงมากรอกข้อมูลที่อยู่ และเบอร์โทรให้ครบถ้วน เสร็จแล้วให้กด Next
10. ขั้นตอนการยืนยัน Apple ID ทางแอปเปิลจะส่งอีเมลยืนยันไปยังอีเมลที่ใช้สมัคร ให้เราเข้าไปเช็คอีเมลเพื่อกดยืนยันการสมัคร Apple ID
(หากเราเชื่อมต่อหรือซิงก์อีเมลกับ iPhone ไว้ สามารถกดเช็คอีเมลและยืนยันการสมัคร Apple ID จาก iPhone ก็ได้)
(หากเราเชื่อมต่อหรือซิงก์อีเมลกับ iPhone ไว้ สามารถกดเช็คอีเมลและยืนยันการสมัคร Apple ID จาก iPhone ก็ได้)
11. แอปเปิลจะส่งอีเมลยืนยันการสมัคร Apple ID ให้เปิดอีเมลนั้นแล้วคลิกลิงก์ Verify Now เพื่อยืนยันการสมัคร
12. จากนั้นกรอกอีเมลที่ใช้สมัครและรหัสผ่านให้ถูกต้อง เสร็จแล้วคลิกปุ่ม Verify Address
13. หากกรอกข้อมูลถูกต้อง ระบบก็จะแสดงการยืนยันการสมัคร ตัวอย่างดังรูป
14. กลับมาที่ App Store อีกครั้ง กดเลือกแอพฯ ที่ต้องการโหลด จากนั้นจะมีข้อความแจ้งเตือนอีกครั้ง ให้กดเลือก Use Existing Apple ID จากนั้นกรอกอีเมลและรหัสผ่านของ Apple ID
เพียงเท่านี้ เราก็สามารถโหลดแอพฯ ฟรีจาก App Store ลงบน iPhone ได้ตามต้องการ โดยไม่จำเป็นต้องมีบัตรเครดิต แต่ถ้าหากต้องการซื้อแอพฯ สามารถเพิ่มเติมข้อมูลบัตรเครดิตได้ในภายหลัง
25 แอพพลิเคชั่นพื้นฐานบน iPhone
iPhone มีแอพพลิเคชั่นมากกว่า 500,000 แอพพลิเคชั่นที่อยู่บน App Store มีทั้งแบบฟรีและแบบเสียเงิน แต่ iPhone ก็มีแอพพลิเคชั่นพื้นฐานที่ติดมากับเครื่องโดยไม่ต้องติดตั้งเพิ่มเติม จำนวน 25 แอพฯ ด้วยกัน ซึ่งสำหรับผู้ใช้ iPhone มือใหม่ที่ไม่เคยสัมผัสกับระบบปฏิบัติการ iOS อาจจะยังไม่ทราบว่าแอพพลิเคชั่นพื้นฐานที่มากับเครื่องเหล่านี้ใช้ทำอะไรได้บ้าง เรามาทำความรู้จักกับแอพพลิเคชั่นพื้นฐานของ iPhone กัน
แอพพลิเคชั่นพื้นฐานบน iPhone (iOS 5)
1. Messages (ข้อความ) – ใช้สำหรับรับข้อความและส่งข้อความ (SMS)
2. Calendar (ปฏิทิน) – ใช้สำหรับดูปฏิทิน, เพิ่มกิจกรรม นัดหมายต่าง ๆ ของแต่ละวันลงในปฏิทินได้
3. Photos (รูปภาพ) – อัลบั้มรูปรวมรูปภาพทั้งหมดอยู่ภายในเครื่อง
4. Camera (กล้อง) – กล้องถ่ายภาพ
5. Videos (วิดีโอ) – ใช้สำหรับเก็บวิดีโอที่โหลดหรือซื้อมาจาก iTunes Store
6. Youtube – ใช้สำหรับดูคลิปวิดีโอจาก Youtube
7. Maps (แผนที่) – ใช้สำหรับดูแผนที่, ค้นหาสถานที่และเส้นทางต่าง ๆ ทั่วโลก
8. Weather (สภาพอากาศ) – ตรวจสอบและเช็คสภาพอากาศทั่วโลก
9. Notes (จดโน้ต/บันทึก) – ใช้สำหรับจดบันทึกข้อความกันลืม
10. Reminders (เตือนความจำ) – ใช้สำหรับบันทึกข้อความสั้น ๆ เพื่อเตือนความจำ สามารถตั้งเวลาเตือนได้
11. Clock (นาฬิกา) – ตั้งนาฬิกาปลุก
12. Games Center – ช่วยให้ผู้ใช้ iPhone สามารถเล่นเกมแบบมัลติเพลเยอร์กับเพื่อนๆ และทำให้รู้ว่าเพื่อน ๆ เล่นเกมอะไรอยู่บ้าง
13. Newsstand (แผงหนังสือพิมพ์) – ใช้สำหรับดาวน์โหลดและซื้อหนังสือ, แมกกาซีนต่าง ๆ ออนไลน์
14. iTunes – ใช้สำหรับซื้อหนัง เช่าหนัง ซื้อเพลงออนไลน์
15. App Store – แหล่งรวมแอพพลิเคชั่นสำหรับผู้ใช้ iPhone สามารถโหลดแอพพลิเคชั่นได้จาก iPhone ผ่าน App Store
16. Settings (ตั้งค่า) – ตั้งค่าต่าง ๆ ของ iPhone เช่น เสียงเรียกเข้า, เปิดปิด 3G, เปิด Wi-Fi เป็นต้น
17. Phone (โทรศัพท์) – ใช้สำหรับโทรออก, ดูสายที่ไม่ได้รับ, ส่งวอยซ์เมล
18. Mail (อีเมล) – ใช้สำหรับรับและส่งอีเมลจาก iPhone
19. Safari – เว็บเบราว์เซอร์สำหรับท่องเว็บไซต์
20. Music (เพลง) – ใช้สำหรับฟังเพลง
21. Stocks (หุ้น) – เช็คหุ้นทั่วโลก
22. Contacts (รายชื่อ) – จัดการรายชื่อ, เพิ่มรายชื่อ, แก้ไขรายชื่อ
23. Calculator (เครื่องคิดเลข) – เครื่องคิดเลข พื้นฐาน บวก ลบ คูณ หารทั่วไป
24. Compass (เข็มทิศ) – เข็มทิศนำทาง เหมาะกับกรณีเดินป่าหรือต้องการหาทิศทาง
25. Voice Memos (วอยซ์เมโม) – ใช้ iPhone เป็นเครื่องบันทึกเสียงหรือคล้าย ๆ กับเครื่องอัดเสียง
2. Calendar (ปฏิทิน) – ใช้สำหรับดูปฏิทิน, เพิ่มกิจกรรม นัดหมายต่าง ๆ ของแต่ละวันลงในปฏิทินได้
3. Photos (รูปภาพ) – อัลบั้มรูปรวมรูปภาพทั้งหมดอยู่ภายในเครื่อง
4. Camera (กล้อง) – กล้องถ่ายภาพ
5. Videos (วิดีโอ) – ใช้สำหรับเก็บวิดีโอที่โหลดหรือซื้อมาจาก iTunes Store
6. Youtube – ใช้สำหรับดูคลิปวิดีโอจาก Youtube
7. Maps (แผนที่) – ใช้สำหรับดูแผนที่, ค้นหาสถานที่และเส้นทางต่าง ๆ ทั่วโลก
8. Weather (สภาพอากาศ) – ตรวจสอบและเช็คสภาพอากาศทั่วโลก
9. Notes (จดโน้ต/บันทึก) – ใช้สำหรับจดบันทึกข้อความกันลืม
10. Reminders (เตือนความจำ) – ใช้สำหรับบันทึกข้อความสั้น ๆ เพื่อเตือนความจำ สามารถตั้งเวลาเตือนได้
11. Clock (นาฬิกา) – ตั้งนาฬิกาปลุก
12. Games Center – ช่วยให้ผู้ใช้ iPhone สามารถเล่นเกมแบบมัลติเพลเยอร์กับเพื่อนๆ และทำให้รู้ว่าเพื่อน ๆ เล่นเกมอะไรอยู่บ้าง
13. Newsstand (แผงหนังสือพิมพ์) – ใช้สำหรับดาวน์โหลดและซื้อหนังสือ, แมกกาซีนต่าง ๆ ออนไลน์
14. iTunes – ใช้สำหรับซื้อหนัง เช่าหนัง ซื้อเพลงออนไลน์
15. App Store – แหล่งรวมแอพพลิเคชั่นสำหรับผู้ใช้ iPhone สามารถโหลดแอพพลิเคชั่นได้จาก iPhone ผ่าน App Store
16. Settings (ตั้งค่า) – ตั้งค่าต่าง ๆ ของ iPhone เช่น เสียงเรียกเข้า, เปิดปิด 3G, เปิด Wi-Fi เป็นต้น
17. Phone (โทรศัพท์) – ใช้สำหรับโทรออก, ดูสายที่ไม่ได้รับ, ส่งวอยซ์เมล
18. Mail (อีเมล) – ใช้สำหรับรับและส่งอีเมลจาก iPhone
19. Safari – เว็บเบราว์เซอร์สำหรับท่องเว็บไซต์
20. Music (เพลง) – ใช้สำหรับฟังเพลง
21. Stocks (หุ้น) – เช็คหุ้นทั่วโลก
22. Contacts (รายชื่อ) – จัดการรายชื่อ, เพิ่มรายชื่อ, แก้ไขรายชื่อ
23. Calculator (เครื่องคิดเลข) – เครื่องคิดเลข พื้นฐาน บวก ลบ คูณ หารทั่วไป
24. Compass (เข็มทิศ) – เข็มทิศนำทาง เหมาะกับกรณีเดินป่าหรือต้องการหาทิศทาง
25. Voice Memos (วอยซ์เมโม) – ใช้ iPhone เป็นเครื่องบันทึกเสียงหรือคล้าย ๆ กับเครื่องอัดเสียง
ผลการทดสอบแบตเตอรี่ของ iPhone 5 อึดกว่า iPhone 4S และ Galaxy S III
|
Subscribe to:
Posts (Atom)